การเรียนรู้ไม่เคยสิ้นสุด
เบรกเรื่องความรักมามอยเรื่องการศึกษาเรียนรู้กันบ้างดีกว่า "เพราะชีวิตไม่ได้มีแค่เรื่องความรัก" เนอะ
ตอนเด็กๆ เราอาจจะเคยคิดว่า การเรียนเป็นเรื่องน่าเบื่อ เรียนไปทำไม พาย อาร์ กำลังสอง ถอดสะแควรง สะแควรูท ไม่อยากไปโรงเรียน เบื่อวงจรเดิมๆ ต้องแหกตาตื่นตั้งแต่เช้าแบกกระเป๋าหนักๆ ไปโรงเรียน เรียนก็ไม่ได้สนุก อาทิตย์นึงอยู่โรงเรียนมากกว่าอยู่บ้าน เสาร์อาทิตย์แป้บๆ ต้องไปโรงเรียนอีกละ เมื่อไหร่จะจบ เมื่อไหร่จะโต อยากรีบๆ โต ไม่อยากไปโรงเรียน
แต่พอโตขึ้น ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเรียนมาทำไม พาย อาร์ กำลังสอง(อ้าว ฮ่าาาา) ก็จริงๆ เพราะนอกห้องเรียนจนถึงอายุปูนนี้ ก็ยังไม่มีโอกาสไหนในชีวิตที่จะได้ใช้ พายอาร์กำลังสองเลย หรือแม้แต่สูตรคณิตศาสตร์ต่างๆ ที่เคยท่องจำกันสมัยเด็กๆ เรียกได้ว่าชี้เป็นชี้ตายอนาคตทางการศึกษาได้เลยน้าน สุดท้ายก็เป็นแค่การท่องจำ ที่ลืมทันที่ที่เดินออกจากห้องเรียน แต่อาจจะมีคนที่ได้ใช้ เราไม่รู้ เพราะเราไม่ได้ไปสายคำนวณ เรามาสายศิลป์
เอาใหม่...แต่พอโตขึ้น เรากลับรู้สึกว่าการศึกษาเป็นเรื่องที่สำคัญ และเรารู้สึกชอบการเรียน อยากจะเรียนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเรียนไม่ไหว เรารู้สึกว่า การศึกษาเรียนรู้มันไม่เคยสิ้นสุด สิ่งที่เราไม่รู้ ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่ และการยิ่งเรียนรู้ ยิ่งทำให้เราได้รู้ในสิ่งที่เราไม่รู้มากขึ้นไปอีก การเรียนรู้ในสิ่งหนึ่ง อาจจะนำเราไปสู่การเรียนรู้ในอีกสิ่งหนึ่ง หรือนำเราไปสู่การค้นพบตัวเองในอีกด้านหนึ่งก็ได้
การศึกษาเรียนรู้ไม่ว่าจะด้านใด มันให้คุณประโยชน์กับเราทั้งนั้น ไม่ทางใดก็ทางนึง น้องๆ หลายคนอยู่ในช่วงที่ยังไม่รู้ว่าจะไปต่อด้านไหน ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนอะไร ยังไม่มีไอเดียว่าจะเรียนอะไรดี จบไปจะทำอะไร
ตัวพี่เองตอนสอบเข้ามหาลัยคิดแค่ว่า เรียนอะไรดีที่จะมีความสุข เรารู้ตัวว่าเราชอบเรียนภาษาอังกฤษ เวลาเรียนแล้วสนุก ไม่น่าเบื่อ เราก็เลือกสอบสาขาภาษาอังกฤษเลย โดยไม่เคยคิดเลยว่า จบไปจะไปทำอะไร แต่รู้แค่ว่า จะไม่เรียนครุศาสตร์แน่ๆ เพราะตอนนั้นไม่อยากเป็นคุณครู เลยเลือกลงศิลปศาสตร์ แล้วเป็นความโชคดีที่สาขาที่เรียนมีวิชาที่หลากหลายมาก เป็นการปูพื้นฐานให้เราแทบจะทุกด้านเลย ความโชคดีนี้มาค้นพบเมื่อไม่นานมานี้เอง อิอิ
เมื่อเราได้ลองทำอะไรหลายๆ อย่าง จึงได้ค้นพบว่า เราสามารถนำพื้นฐานที่เราเคยเรียนตอนป.ตรีมาใช้ได้เกือบจะทุกอย่างที่ทำ และที่สำคัญพื้นฐานที่เรียนมามีส่วนช่วยมากเลยในเรื่องของการศึกษาต่อในปัจจุบัน ถึงแม้ความรู้จะเริ่มเลือนลางแล้วเพราะจบมานาน อุ้ปส์
ฉะนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจว่าจะเลือกเรียนด้านไหนนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว และจุดประสงค์ในการเรียนของเราด้วย ว่าเราอยากเรียนไปเพื่อทำอะไรต่อไป ส่วนเรื่องที่ว่าจบไปแล้วจะไปเป็นอะไรนั้น ความจริงข้อนึงคือ บางคนจบมาก็ทำงานไม่ตรงสาย บางคนเป็นผู้เชี่ยวชาญในอาชีพที่ทำโดยไม่ได้จบมาโดยตรง
มันไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาจะรู้เลยว่า ชั้นอยากเรียนอะไร ต่อด้านไหน จบไปทำอะไร และมันก็ไม่ได้โชคดีทุกคนที่เรียนๆ ไปอย่างนั้น พอจบมาก็ได้ทำอะไรที่ตัวเองชอบอยู่ตลอดเวลา บางคนอาจจะรู้ตั้งแต่เด็กเลยว่าอยากเรียนอะไร อยากทำอะไร และก็มุ่งไปจนได้ในสิ่งที่วาดไว้ แต่มันก็ไม่ได้มีทุกคนที่เดินตามแพลนของตัวเองได้สำเร็จ แล้วสุดท้ายจะแฮปปี้กับทางที่เลือก
มีคนเยอะแยะที่สุดท้ายมาค้นพบเอาตอนหลังว่าสิ่งที่ทำมาตลอดไม่ได้ตอบโจทย์ของชีวิตก็มี
บางครั้งการจะรู้ว่าเราอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร มันก็ต้องอาศัยการเรียนรู้มากๆ ซึ่งการเรียนรู้บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในโรงเรียนหรือมหาลัย แต่การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะในชีวิตของการทำงาน การทำกิจกรรมนอกมหาลัย หรือการทำงานอดิเรกต่างๆที่เราชอบ การเรียนรู้และประสบการ์ต่างๆ เหล่านี้แหละที่สักวันนึงจะทำให้เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เราชอบ และอะไรที่เราไม่ชอบ
บางทีชีวิตหลังจากเรียนจบมันก็น่ากลัวกว่าจะมามัวนั่งคิดว่าจะเรียนอะไร จบไปจะทำอะไร ถ้าให้พี่แนะนำพี่อยากจะบอกน้องๆ ว่า จงมีความสุขกับการเรียน ไม่ว่าน้องจะเรียนอะไร ไม่ว่าจบมาแล้วน้องจะทำอะไร สิ่งที่สำคัญคือการเรียนรู้ระหว่างทาง การสั่งสมความรู้ ประสบการณ์ และเพื่อนๆ ตักตวงชีวิตในวัยเรียนไว้ให้มากที่สุด บางทีเมื่อถึงจุดๆ นึง น้องอาจจะคิดเหมือนพี่ คือ อยากกลับไปเป็นเด็ก อยากเรียนหนังสือ ไม่อยากโต ไม่อยากเรียนจบ อยากกลับไปใช้ชีวิตวัยเรียน
สรุป จบละก็ไม่รู้สนับสนุนให้น้องๆ เล่าเรียนหรืออะไรกันแน่ แต่ก็นี่แหละค่ะ ชีวิตจริง
พูดเรื่องเรียนละเครียดค่ะ ขอหยุดไว้แต่เพียงเท่านี้ สวัสดี๊ข่าาาา
พี่ตต.
ตอนเด็กๆ เราอาจจะเคยคิดว่า การเรียนเป็นเรื่องน่าเบื่อ เรียนไปทำไม พาย อาร์ กำลังสอง ถอดสะแควรง สะแควรูท ไม่อยากไปโรงเรียน เบื่อวงจรเดิมๆ ต้องแหกตาตื่นตั้งแต่เช้าแบกกระเป๋าหนักๆ ไปโรงเรียน เรียนก็ไม่ได้สนุก อาทิตย์นึงอยู่โรงเรียนมากกว่าอยู่บ้าน เสาร์อาทิตย์แป้บๆ ต้องไปโรงเรียนอีกละ เมื่อไหร่จะจบ เมื่อไหร่จะโต อยากรีบๆ โต ไม่อยากไปโรงเรียน
แต่พอโตขึ้น ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเรียนมาทำไม พาย อาร์ กำลังสอง(อ้าว ฮ่าาาา) ก็จริงๆ เพราะนอกห้องเรียนจนถึงอายุปูนนี้ ก็ยังไม่มีโอกาสไหนในชีวิตที่จะได้ใช้ พายอาร์กำลังสองเลย หรือแม้แต่สูตรคณิตศาสตร์ต่างๆ ที่เคยท่องจำกันสมัยเด็กๆ เรียกได้ว่าชี้เป็นชี้ตายอนาคตทางการศึกษาได้เลยน้าน สุดท้ายก็เป็นแค่การท่องจำ ที่ลืมทันที่ที่เดินออกจากห้องเรียน แต่อาจจะมีคนที่ได้ใช้ เราไม่รู้ เพราะเราไม่ได้ไปสายคำนวณ เรามาสายศิลป์
เอาใหม่...แต่พอโตขึ้น เรากลับรู้สึกว่าการศึกษาเป็นเรื่องที่สำคัญ และเรารู้สึกชอบการเรียน อยากจะเรียนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเรียนไม่ไหว เรารู้สึกว่า การศึกษาเรียนรู้มันไม่เคยสิ้นสุด สิ่งที่เราไม่รู้ ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่ และการยิ่งเรียนรู้ ยิ่งทำให้เราได้รู้ในสิ่งที่เราไม่รู้มากขึ้นไปอีก การเรียนรู้ในสิ่งหนึ่ง อาจจะนำเราไปสู่การเรียนรู้ในอีกสิ่งหนึ่ง หรือนำเราไปสู่การค้นพบตัวเองในอีกด้านหนึ่งก็ได้
การศึกษาเรียนรู้ไม่ว่าจะด้านใด มันให้คุณประโยชน์กับเราทั้งนั้น ไม่ทางใดก็ทางนึง น้องๆ หลายคนอยู่ในช่วงที่ยังไม่รู้ว่าจะไปต่อด้านไหน ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนอะไร ยังไม่มีไอเดียว่าจะเรียนอะไรดี จบไปจะทำอะไร
ตัวพี่เองตอนสอบเข้ามหาลัยคิดแค่ว่า เรียนอะไรดีที่จะมีความสุข เรารู้ตัวว่าเราชอบเรียนภาษาอังกฤษ เวลาเรียนแล้วสนุก ไม่น่าเบื่อ เราก็เลือกสอบสาขาภาษาอังกฤษเลย โดยไม่เคยคิดเลยว่า จบไปจะไปทำอะไร แต่รู้แค่ว่า จะไม่เรียนครุศาสตร์แน่ๆ เพราะตอนนั้นไม่อยากเป็นคุณครู เลยเลือกลงศิลปศาสตร์ แล้วเป็นความโชคดีที่สาขาที่เรียนมีวิชาที่หลากหลายมาก เป็นการปูพื้นฐานให้เราแทบจะทุกด้านเลย ความโชคดีนี้มาค้นพบเมื่อไม่นานมานี้เอง อิอิ
เมื่อเราได้ลองทำอะไรหลายๆ อย่าง จึงได้ค้นพบว่า เราสามารถนำพื้นฐานที่เราเคยเรียนตอนป.ตรีมาใช้ได้เกือบจะทุกอย่างที่ทำ และที่สำคัญพื้นฐานที่เรียนมามีส่วนช่วยมากเลยในเรื่องของการศึกษาต่อในปัจจุบัน ถึงแม้ความรู้จะเริ่มเลือนลางแล้วเพราะจบมานาน อุ้ปส์
ฉะนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจว่าจะเลือกเรียนด้านไหนนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว และจุดประสงค์ในการเรียนของเราด้วย ว่าเราอยากเรียนไปเพื่อทำอะไรต่อไป ส่วนเรื่องที่ว่าจบไปแล้วจะไปเป็นอะไรนั้น ความจริงข้อนึงคือ บางคนจบมาก็ทำงานไม่ตรงสาย บางคนเป็นผู้เชี่ยวชาญในอาชีพที่ทำโดยไม่ได้จบมาโดยตรง
มันไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาจะรู้เลยว่า ชั้นอยากเรียนอะไร ต่อด้านไหน จบไปทำอะไร และมันก็ไม่ได้โชคดีทุกคนที่เรียนๆ ไปอย่างนั้น พอจบมาก็ได้ทำอะไรที่ตัวเองชอบอยู่ตลอดเวลา บางคนอาจจะรู้ตั้งแต่เด็กเลยว่าอยากเรียนอะไร อยากทำอะไร และก็มุ่งไปจนได้ในสิ่งที่วาดไว้ แต่มันก็ไม่ได้มีทุกคนที่เดินตามแพลนของตัวเองได้สำเร็จ แล้วสุดท้ายจะแฮปปี้กับทางที่เลือก
มีคนเยอะแยะที่สุดท้ายมาค้นพบเอาตอนหลังว่าสิ่งที่ทำมาตลอดไม่ได้ตอบโจทย์ของชีวิตก็มี
บางครั้งการจะรู้ว่าเราอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร มันก็ต้องอาศัยการเรียนรู้มากๆ ซึ่งการเรียนรู้บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในโรงเรียนหรือมหาลัย แต่การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะในชีวิตของการทำงาน การทำกิจกรรมนอกมหาลัย หรือการทำงานอดิเรกต่างๆที่เราชอบ การเรียนรู้และประสบการ์ต่างๆ เหล่านี้แหละที่สักวันนึงจะทำให้เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เราชอบ และอะไรที่เราไม่ชอบ
บางทีชีวิตหลังจากเรียนจบมันก็น่ากลัวกว่าจะมามัวนั่งคิดว่าจะเรียนอะไร จบไปจะทำอะไร ถ้าให้พี่แนะนำพี่อยากจะบอกน้องๆ ว่า จงมีความสุขกับการเรียน ไม่ว่าน้องจะเรียนอะไร ไม่ว่าจบมาแล้วน้องจะทำอะไร สิ่งที่สำคัญคือการเรียนรู้ระหว่างทาง การสั่งสมความรู้ ประสบการณ์ และเพื่อนๆ ตักตวงชีวิตในวัยเรียนไว้ให้มากที่สุด บางทีเมื่อถึงจุดๆ นึง น้องอาจจะคิดเหมือนพี่ คือ อยากกลับไปเป็นเด็ก อยากเรียนหนังสือ ไม่อยากโต ไม่อยากเรียนจบ อยากกลับไปใช้ชีวิตวัยเรียน
สรุป จบละก็ไม่รู้สนับสนุนให้น้องๆ เล่าเรียนหรืออะไรกันแน่ แต่ก็นี่แหละค่ะ ชีวิตจริง
พูดเรื่องเรียนละเครียดค่ะ ขอหยุดไว้แต่เพียงเท่านี้ สวัสดี๊ข่าาาา
พี่ตต.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น