เรื่องเล่าหลังตี 1 ตอนที่ 3: อยู่คนเดียว...แต่..เหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว




 เคยมะ บางครั้งอยู่คนเดียว แต่เหมือน..."ไม่ได้อยู่คนเดียว"

พอ "อ้น" อัพสถานะบน facebook ก็มีเพื่อนๆ เข้ามาคอมเม้นท์กันอย่างสนุกสนาน บ้างก็ว่า "เห้ย แอบใครไว้ในตู้เสื้อผ้าตอนไอ้ขิมมาหรอวะ 555++" บ้างก็ว่า "แหม เดี๋ยวนี้คมคายๆ มีหญิงใหม่อ่ะดิ 55++" 
กระทั่ง "ขิม" ที่ถูกเอ่ยถึงมาเม้นท์ว่า "อะไร_ึง ไอ่อ้น ที่หนีไปดูหนังคนเดียววันก่อนยังไม่ได้ชำระความกันเลยนะ ตกลงไปดูกะใครกันแน่" หลังจากนั้นเพื่อนๆ ก็เข้ามาคอมเม้นท์หัวเราะสะใจกันกระหน่ำ

"หางานให้_ูอีกละพวกเพื่อนเลว ไม่เล่นแ_่งละ" อ้นขำเบาๆ ก่อนจะปิดโน้ตบุ้คลง แล้วลุกขึ้นจากโต๊ะหนังสือ 

แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้อ้นต้องชะงัก

เสียงดังมาจากห้องนอน คล้ายมีของหล่น อ้นจ้องไปทางหน้าห้องนอนนิ่ง ก่อนจะค่อยๆ ก้าวเท้าช้าๆ ไปที่ประตู 

เขาอยุดอยู่ที่ประตูห้องนอนที่ภายในมืดสนิท มีเพียงแสงที่ส่องเข้ามาทางระเบียงเล็กน้อย พอให้เห็นผ้าม่านที่ปลิวสไหวเบาๆ 

อ้นเอื้อมมือไปเปิดไฟ เมื่อไฟในห้องสว่างว้าบขึ้นมา อ้นเดินตรงรี่เข้าไปที่ผ้าม่าน แล้วแหวกมันออกสองข้างพร้อมกัน 

"เผลอเปิดทิ้งไว้ตอนไหนวะ" อ้นพึมพำกับตัวเองพลางเดินออกไปที่ระเบียง ไม่เห็นจะมีลมเลย อ้นคิดก่อนจะเดินกลับเข้าห้อง เลื่อนประตูปิด แล้วจะเดินไปที่เตียง 

แต่แล้วอ้นก็ต้องชะงักอีกครั้ง เมื่อเท้าเหยียบเข้ากับอะไรบางอย่าง 

อ้นก้มลงไปหยิบบางอย่างบนพื้นขึ้นมาอย่างพินิจพิเคราะห์

มันคือหุ่นยนต์กันดั้ม สงสัยจะหล่นลงมาจากโต๊ะข้างหัวเตียง มันทำให้อ้นรู้สึกอยากจะเล่นมันขึ้นมาหลังจากใช้เวลาหมกหมุ่นอยู่กับโซเชียลมาทั้งวัน

หุ่นยนต์กันดั้มนับสิบตัว ถูกนำมาวางเรียงรายอยู่บนพื้น อ้นใช้เวลาอยู่กับหุ่นยนต์จนลืมโลกโซเชียล มันทำให้เขารู้สึกเหมือน...มีเพื่อนเล่น...

"กริ้งงงงง" เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะข้างหัวเตียงดังขึ้นหลายครั้ง จนอ้นต้องวางมือจากหุ่นยนต์แล้วเอี้ยวตัวไปรับ
"โอ้ย ทำไมถึงรับช้านัก ออกมาเปิดประตูให้ดิ้" เสียงดังทะลุหูโทรศัพท์มาโดยที่อ้นยังไม่ทันได้พูดอะไร ก่อนที่เขาจะรีบกุลีกุจอออกไปที่ประตูทันที

"ขิม" ยืนกอดอกหน้าบอกว่าไม่สบอารมณ์อย่างแรงอยู่หน้าประตู อ้นทำหน้าตกใจที่ขิมมาโผล่ที่หน้าห้องตอน 5 ทุ่ม โดยไม่บอกไม่กล่าว

"ก็อยู่ดีๆ ก็เลิกคุย ออนก็ไม่ออน เพื่อนเม้นท์หาในเฟสจนเฟสล่มไปละมั้ง ไลน์มาก็ไม่อ่าน แถมโทรเข้ามือถือก็ไม่รับ โทรเข้าคอนโดก็กว่าจะรับได้ ก็นึกว่าแอบซุกใครไว้เหมือนไอ้หนุ่มว่าอ่ะดิ" ขิมบ่นรัวๆ เมื่อเข้ามาในห้อง

"โอ้ว์ ไปกันใหญ่ละ"
"ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าสองสามวันมาเนี้ย เตงไม่ค่อยออกไปหาเพื่อนๆ เลย หมกตัวอยู่แต่ในห้อง ใครชวนไปไหนก็ไม่ไป แล้วยังมาโพสต์อะไรแบบนี้อีก เป็นใครๆ ก็คิด"
"โอ้ย บ้าแล้วววว"

ขิมหลี่ตามองอ้น ทำหน้าไม่ไว้ใจ ก่อนค่อยๆ เนียนเดินสำรวจไปทั่วห้อง เมื่อเข้าไปถึงห้องนอนเห็นหุ่นยนต์ของอ้นวางเกลื่อนอยู่บนพื้น ก็แอบยิ้ม "ที่แท้ก็หมกอยู่กะตุ๊กตุ่นนี่เอง แอบไปซื้อมาอีกละ ตัวนี้ยังไม่เคยเห็นเลอะ" ขิมหยิบกันดั้มตัวใหม่ของอ้นขึ้นมา 

"เห้ยๆ ตัวนั้นแพงนะ" อ้นตกใจรีบเอื้อมมือไปคว้าจากมือขิมและวางมันลงบนโต๊ะข้างๆ หัวเตียง

ขิมทำหน้ายิ้มกริ่ม ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง "เอากุญแจมาเลยนะ คราวหน้าจะได้ไม่ต้องมายืนเคาะอยู่หน้าห้องเป็นอีบ้า ดีห้องอื่นไม่ออกมาด่าเอา"

"อะไรๆๆ ไม่เห็นได้ยินอะไรเลย" อ้นรีบปฎิเสธ แต่ขิมทำหน้าไม่เล่นด้วย 
"ก็ได้ๆ ว่าแต่ คืนนี้ค้างกะเค้านะ มันดึกละ อันตราย" อ้นเข้ามาอ้อน
"ย่ะ"

..............................................................................................................

อากาศในห้องร้อนอบอ้าว ขิมนอนพลิกไปพลิกมา จนในที่สุดก็ค่อยๆ ลืมตาตื่น ปาดเหงื่อเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปควานหาโทรศัพท์ที่โต๊ะหัวเตียงด้วยความงัวเงีย แล้วมือก็ปัดไปโดนอะไรบางอย่างตกลงไปที่พื้น ขิมเปิดหน้าจอโทรศัพท์สาดไฟลงไปที่พื้น กันดั้มตัวใหม่ของอ้นนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น ปีกหลุดออกจากตัว  ขิมรีบหันไปมองอ้น 

อ้นยังคงนอนหลับสนิท ขิมจึงหันกลับมาแบบไม่ได้สนใจอะไร มองดูนาฬิกาที่หน้าจอ 
"พึ่งตี 3" ขิมลุกขึ้นจากที่นอนช้าๆ ค่อยๆ วางเท้าลงบนพื้นทีละข้าง เมื่อก้าวไปได้สองก้าวก็ต้องชะงักเท้าขึ้นมาอย่างเร็ว เพราะเหยียบอะไรบางอย่างเข้าแล้ว 

"โอ้ย อีพวกหุ่นยนต์บ้า เดี๋ยวก็เก็บไปขายให้หมดเลยหนิ" พูดจบขิมก็ใช้โทรศัพท์ส่องพื้นก่อนจะค่อยๆ เดินตามแสงออกจากห้องนอนไป

เมื่อเดินไปถึงโซนห้องครัว ขิมวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะเปิดตู้เย็น มองหาน้ำดื่ม แสงไฟจากตู้เย็นทำให้ห้องสว่างขึ้นมามากโดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์ เมื่อได้น้ำดื่มแล้วขิมก็ปิดตู้เย็นทันที ไฟจากตู้เย็นดับลงพร้อมๆ กับไฟจากหน้าจอโทรศัพท์ ห้องทั้งห้องมืดสนิท พร้อมๆ กับที่มีเสียงๆ หนึ่งดังขึ้นจากห้องนอนจนขิมสะดุ้ง ขิมค่อยๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดหน้าจออีกครั้ง ก่อนจะสาดไฟไปทางห้องนอนที่ประตูยังเปิดค้างอยู่

"อีอ้น ละเมอลุกมาเล่นตุ๊กตุ่นหรอ" ขิมยิ้มขำคนเดียวเบาๆ ก่อนจะถือขวดน้ำดื่มค่อยๆ ย่องเข้าไปในห้องนอน

อ้นยังคงนอนอยู่ท่าเดิม 

"หืม เนียนนะเนียน" ขิมพึมพำเบาๆ แล้วเดินอ้อมไปฝั่งเดิมของเตียง ก่อนจะวางขวดน้ำดื่มลงบนโต๊ะหัวเตียง แต่แล้วก็ต้องชะงักมือนิดนึง

หุ่นยนต์ตัวเดิมกลับมาตั้งอยู่บนโต๊ะพร้อมปีกครบ ขิมหันไปมองที่อ้น

"นี่ต้องขนาดนี้จริงๆ หรอเนี่ย" ขิมพึมพำหันไปเขย่าอ้นเบาๆ อ้นนอนนิ่งอยู่ท่าเดิมส่งเสียงกรนเบาๆ 
"สงสัยจะละเมอจริงๆ แฮะ" ขึมหัวเราะหึๆ ในลำคอก่อนจะหันไปหยิบรีโมทแอร์ที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง
"อ้าว ก็ 25 แล้วทำไมร้อนจัง เสียละมั้งเนี่ย" ขิมพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วเอนตัวลงนอน

ขิมฆ่าเวลาในระหว่างที่ยังนอนไม่หลับด้วยการอัพเดทสถานะลงบนเฟสบุ้ค

"ตื่นมากลางดึก ละจะหลับลงมั้ยคราวเนี้ย"

หลังจากนั้นก็มีเพื่อนๆ เข้ามาคอมเม้นท์มากมาย ขิมสนุกสนานอยู่กับบทสนทนาและมีเผลอหัวเราะออกมาเบาๆ เป็นบางครั้ง แต่แล้วจู่ๆ ก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงดังมาจากส่วนไหนสักส่วนของห้อง ขิมเงี่ยหูฟังด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่มีเสียงอะไรภายในห้อง นอกจากเสียงเครื่องปรับอากาศ

ขิมค่อยๆ พลิกตัวไปหาอ้น
"ละเมอไรอ่ะ" ขิมพูดกับอ้นเบาๆ แต่อ้นก็ยังคงนิ่งหลับ

ขิมคิดว่าตัวเองคงหูฝาด หลังจากนั้นจึงเก็บโทรศัพท์ไว้ที่หัวเตียงเหมือนเดิม ก่อนจะห่มผ้านอนแล้วหลับไป

...............................................................................................................

รุ่งเช้า อ้นตื่นแต่เช้าเพราะมีโทรศัพท์จากที่บ้านโทรมาให้ไปช่วยรับหลานมาเลี้ยงเพราะเป็นวันหยุด แต่ปลุกขิมแล้วขิมไม่ยอมตื่นเพราะเมื่อคืนตื่นมากลางดึกรู้สึกอยากนอนต่อ อ้นจึงออกไปคนเดียว

ขิมหลับอย่างสบายอยู่ในห้องกระทั่งมีเสียงดังมาจากด้านนอก ขิมคิดว่าอ้นกลับมาแล้วจึงตะโกนออกไปอย่างงัวเงียว่า 

"ไอ่อ้น เสียงดัง จะนอนนน" 

แล้วเสียงนั้นจึงเงียบไป

ขิมหลับต่ออีกนานแค่ไหนไม่รู้ กระทั่งรู้สึกเหมือนมีแรงดึงที่ขาอย่างแรงจนสะดุ้งตื่น
ขิมลุกขึ้นนั่ง ขยี้ตาสองสามที เสียงประตูห้องน้ำปิด ตึง!

"โหย เล่นแรงนะอีอ้น เดี๋ยๆ แก" ขิมหันซ้ายหันขวา เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์

แต่...โทรศัพท์ไม่อยู่บนโต๊ะ

ขิมกวาดตามองไปรอบๆ จนสายตาไปสะดุดอยู่ที่พื้น โทรศัพท์ขิมกองอยู่ตรงนั้น ตรงที่หุ่นยนต์ตกอยู่เมื่อคืนก่อนที่มันจะกลับขึ้นไปอยู่บนโต๊ะ แต่สภาพโทรศัพท์คือหน้ากากและแบตหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ ขิมจ้องโทรศัพท์นิ่งสลับกับหันไปมองที่โต๊ะหัวเตียง ขิมพยายามไล่เรียงเหตุการณ์ แล้วสรุปเอาเองว่า มันคงตกลงมา จะด้วยอะไรก็ช่าง ขิมก้มลงไปหยิบมันขึ้นมาแล้วใส่แบตกลับไปใหม่

ทันทีที่ใส่แบตกลับเข้าไปโทรศัพท์ก็เปิดเครื่องขึ้นมา และมีสายเข้าหลังจากนั้นไม่ถึง 1 นาที

"อ้น" 

"จะโทรมาทำบ้าอะไร อยู่แค่เนี้ยยย" ขิมหันหน้าตะโกนออกไปทางห้องน้ำ พลางลุกขึ้นจากเตียง 

เมื่อไปถึงหน้าห้องน้ำ ขิมเคาะประตูสองสามครั้งแต่ก็เงียบ จึงบิดลูกบิดเปิดประตู ซึ่ง...ไม่ได้ล็อก


.....ในห้องน้ำไม่มีใคร.....


ขิมก้มลงมองที่โทรศัพท์ หน้าจอยังขึ้นชื่ออ้น จึงกดรับแบบงงๆ

"ตื่นแล้วหรอ โทรหาตั้งนานปิดเครื่องทำไมอ่ะ จะถามว่าจะกินไร นี่ถึงปากซอยละ" เสียงอ้นดังออกมาทันทีที่กดรับ ขิมยืนนิ่งอึ้งมองไปรอบๆ ห้องน้ำ แล้วมองกลับไปที่ห้องนอน ก่อนจะเดินออกมาที่ห้องรับแขกด้วยความมึนงง

.........................................................................................................

เมื่อวางสายจากอ้น ขิมค่อยๆ เดินสำรวจไปทั่วๆ ห้อง ความคิดวนเวียนซ้ำๆ อยู่ในหัว ก่อนจะสลัดหัวไปมาเบาๆ คิดว่าตัวเองคงฝัน หรือละเมอไปเอง แล้วเดินกลับเข้าห้องไปหยิบเสื้อผ้าออกมาจากตู้แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำ

เสียงน้ำจากฝักบัวดังซู่ใหญ่กลบความเงียบ ขิมยืนหลับตานิ่งอยู่ใต้ฝักบัว ปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัวไหลชะลงบนศรีษะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

แล้วจู่ๆ น้ำจากฝักบัวก็แรงขึ้นจนสะดุ้งเฮือกรีบผละออกจากรัศมีของสายน้ำอย่างไว ขิมลูบน้ำออกจากใบหน้า ลืมตาโพลง มองจ้องไปที่ฝักบัว ก่อนจะเอื้อมมือไปปรับระดับให้น้ำเบาลง ก่อนจะปิดมันซะ แล้วบีบยาสระผมชะโลมผมเบาๆ 

ยาสระผมเริ่มเป็นฟอง แล้วค่อยๆ ไหลลงมาจนซึมเข้าตา ขิมหลับตาแน่น เอื้อมมือไปควานหาฝักบัว เริ่มรู้สึกแสบตาขึ้นเรื่อยๆ แต่ควานหาฝักบัวไม่เจอ แล้วจู่ๆ น้ำจากฝักบัวก็พุ่งเข้าที่ใบหน้าของขิมเต็มแรงจนต้องผงะไปข้างหลังเล็กน้อยด้วยความเจ็บทั้งๆ ที่ยังหลับตาแน่นเพราะแสบตาจนลืมไม่ขึ้น จนเสียหลักลื่นล้มลงกับพื้น น้ำจากฝักบัวยังคงไหลแรงสาดลงที่หน้าของขิมอยู่ตลอดเวลา จนในที่สุดขิมก็พยายามลูบหน้าทั้งพยายามฝืนลืมตาเอื้อมมือไปเลื่อนกระจกแล้วคลานออกไปหล่นตุ้บอยู่หน้าตู้อาบน้ำ 

ขิมค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้น เปิดน้ำที่อ่างล้างหน้าวักใส่หน้าตัวเอง ก่อนจะหันไปคว้าผ้าขนหนูมาซับหน้าซับผม

เมื่อตั้งสติได้ มองตัวเองในกระจก สภาพผมเปียกโชกมีฟองติดผมอยู่นิดหน่อย ขิมค่อยๆ หันไปที่ตู้อาบน้ำ ที่ตอนนี้น้ำค่อยๆ เบาลงต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง ขิมยืนงงกับเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่พักนึง แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีเสียงเคาะประตูห้องน้ำดังโครมๆ

"น้าขิม น้าขิม โอมาแล้ว"

ขิมถอนหายใจโล่ง คว้าผ้าเช็ดตัวมาห่มก่อนจะรีบเปิดประตูออกไป

เด็กชายวัย 4 ขวบยืนยิ้มเผล่อยู่หน้าห้องน้ำ ขิมรีบเข้าไปอุ้มโอแล้วผลุนผลันออกไปที่ห้องรับแขกทันที

อ้นเห็นสภาพแฟนสาวก็แหย่แบบขำๆ "นี่เธอ อาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนก็ได้นะ หลานชั้นเป็นหนุ่มน้อยนะ เกรงใจหลานด้วย"

แต่ขิมไม่ขำ

"อ้น ไปอาบน้ำเป็นเพื่อนหน่อยดิ"
อ้นขำพรวด "เห้ย กลางวันแสกๆ หลานก็อยู่ทั้งคน"
"ไม่ใช่อย่างงั้น นะ ไปรอที่หน้าห้องน้ำก็ได้" ขิมหน้าตาจริงจังจนอ้นแปลกใจ
"เป็นอะไรมีอะไรรึเปล่า ไม่เอาน่า แล้วหลานอ่ะ"

หลังจากนั้นก็ลงเอยด้วยการที่ อ้นนั่งอยู่บนชักโครกในห้องน้ำ หันหลังให้ตู้อาบน้ำโดยมีโอนั่งอยู่บนตักเอามือสองข้างปิดตาตัวเองไว้


................................................................................................................


วันนี้ทั้งวันขิมกับอ้นต้องเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลโอ  สามคนอยู่ด้วยกัน ทำกิจกรรมสนุกๆ ด้วยกันทั้งวันอย่างสนุกสนาน จะว่าไปวันนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นวันธรรมดาอีกวันสำหรับอ้น แต่สำหรับขิม ถึงวันนี้อาจจะมีอะไรแปลกๆ ไปบ้าง แต่เมื่ออยู่กับอ้นโดยเฉพาะเมื่อมีโอ เด็กน้อยช่างเจรจาบวกกับความน่ารักสดใสตามประสาเด็ก ทำให้หัวเราะและมีรอยยิ้มได้ทั้งวันจนลืมเรื่องทุกอย่างไปหมด

กระทั่ง 2 ทุ่ม ถึงเวลาเข้านอนของโอ อ้นกับขิมอ่านนิทานก่อนนอนเรื่องโปรดให้โอฟัง ก่อนที่ทั้งคู่จะออกมาอยู่ที่ห้องรับแขก ดูรายการทีวีส่งเสียงหัวเราะสนุกสนานกันตามประสา



ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล






**บางครั้ง....การอยู่คนเดียว ก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป ยกเว้น การอยู่คนเดียว แต่เหมือน...ไม่ได้อยู่คนเดียว**


ตต.





โปรดติดตามตอนต่อไปเร็วๆ นี้



ปล. สำหรับคนที่พึ่งมาอ่าน เพื่ออรรถรสโปรดอ่าน  เรื่องเล่าหลังตี 1 ตอนที่ 2: หนังรอบดึก http://rutchatk.blogspot.com/2016/02/1-2.html?spref=tw ค่ะ กราบ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม