หนังคือศิลปะ ศิลปะมีไว้เสพ
เป็นคนที่ ไม่เคยคาดหวังกับหนังเลย ก่อนดูจะไม่มีการคาดหวัง หรือคาดเดาใดๆ ว่าหนังต้องสนองอารมณ์เราด้าน ไหน ไม่อ่านคำวิจารณ์ ไม่อ่านรีวิว พยายามไม่ดูแม้แต่ Trailer คือ อยากรับรู้ทุกอย่างของหนังโดยไม่เอาความคิด หรือความคาดหวังของเราเข้าไปปน
หนังบางเรื่องถ้าได้ดู
Trailer ก็ไม่คาดหวังว่าจะให้อารมณ์เดียวกับที่ดู Trailer เพราะเราโตมาจนถึงจุดที่
ดูหนังมา
มากจนรู้ว่า เราตัดสินหนังแค่จาก Trailer ไม่ได้
ทุกครั้งที่เดินเข้าโรงหนัง ก็จะเดินเข้าไปแบ่บ
มาเลย ชั้นพร้อมแล้วที่จะรับทุกอย่าง เดินเข้าไปกับใจว่างๆ รอรับเต็มที่
ถ้าเป็นแก้ว ก็คือแก้วที่ว่างๆ รอรับการเติมเต็ม
บางเรื่องดูจบแล้ว เห้ย อิ่มว่ะ เต็มว่ะ
บางเรื่องดูจบแล้ว เห้ย ไรแว้ รู้สึกขาดๆ
หายๆ
แต่มันก็คือสิ่งที่หนังสื่อมาถึงเรา
สื่อมาแค่ไหน เราก็รับแค่นั้น
เมื่อเราไม่คาดหวัง เราเลยไม่เคยผิดหวัง
ไม่เคยเสียดายที่เลือกเข้าไปดู มีแค่ว่า “ได้อะไรจากหนังมากน้อยต่างกันแค่
ไหน” ต่างหาก
เห็นหลายคนไปดูหนังแล้วเสียอารณ์กับเนื้อเรื่อง
เสียอารมณ์กับเอฟเฟค เสียอารมณ์กับซับไตเติ้ล เสียอารมณ์กับ
ตอนจบ
จะบอกว่า ส่วนตัวไม่ค่อยเสียอารมณ์กับหนัง
แต่เสียอารมณ์กับบรรยากาศในโรงหนังมากกว่า
หนังกำลังเศร้าเคล้าน้ำตา แต่มีเสียงป้อบคอร์น
มีกลิ่นปลาหมึกแผ่นลอยมา เหมือนอยู่ในโรง 4D แต่เปิดเอฟเฟคไม่
ตรงเรื่องงี้
แบบนี้เสียอารมณ์กว่า เอิ้กๆ
ตต.
คนเสพหนัง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น