เรื่องเล่าหลังตี 1 ตอนที่ 5: งานวันเกิด

ในห้องเรียน ขณะทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาอยู่กับการเขียน จิ้บก็เขยิบเข้ามาหาขิมพลางกระซิบ


"ได้ข่าวว่าแกไปเจออะไรแปลกๆ ที่คอนไดไอ่อ้นมาหรอ"
"เออสิ"
"ยังไงวะ เล่าซิ"
"อ๊อย ไม่เล่าได้ป่ะว่ะ แค่นึกก็ขนลุกล๊าว"
"อ่าว แล้วงี้ วันศุกร์นี้ที่ไอ่อ้นมันจะจัดงานวันเกิดที่คอนโด แกจะไปป่ะ"
"ก็คงต้องไปแหละ"
"เออ ไม่ไปมันก็คงเสียใจนะ แค่นี้มันยังคิดว่าแกเบื่อคอยหลบหน้ามันเลย"
"ป่าว"
"แสดงว่าแกไม่ได้เล่าให้มันฟังหรอว่าแกเจอไร"
"เออ พูดไปมันก็ไม่เชื่อหรอก เดี๋ยวก็หาว่าชั้นมโนอิก มันเคยเชื่อเรื่องพวกนี้ที่ไหนล่ะ"
"อืมม์ เข้าใจละ"


"เอาล่ะทุกคน ใครเสร็จแล้วก็ส่งที่หน้าห้องแล้วกลับได้เลยนะคะ" เสียงอาจารย์ดังขึ้นจากหน้าห้อง เป็นอันจบการสนทนา


อ้นลุกเดินไปหน้าชั้น วางกระดาษลงบนโต๊ะอาจารย์ หันหลังกลับมามองที่ขิม ยิ้มให้ แล้วเดินออกจากห้องไป

ขิมมองอ้นไม่แสดงสีหน้าอะไร ก่อนจะลงมือเขียนงานของตัวเองให้เสร็จ



อ้นจับกลุ่มคุยกับเพื่อนๆ อยู่ที่หน้าห้องเรียน ขณะที่ขิมเดินออกไปพร้อมจิ้บ ทุกคนหันมาที่ขิม อ้นรีบเดินเข้ามาหาขิมทันที

"ขิม คุยกันก่อนสิ ตอนนี้กำลังคุยกันเรื่องงานวันศุกร์นี้ที่คอนโดอ่ะ ขิมไปให้ได้นะ"

ขิมถอนหายใจมองหน้าเพื่อนๆ ที่ยืนรอคำตอบอยู่ ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ ทุกคนยิ้มกันออกมา โดยมีคนนึงพูดขึ้นว่า 

"ไม่ต้องกลัวหรอก เพื่อนไปเยอะ ผีไม่กล้าออกมาหรอก" แล้วก็ตามด้วยเสียงหัวเราะครืน

ขิมตีหน้ายักษ์ทันทีพร้อมกับเดินหนี โดยมีจิ้บและอ้นรีบสาวเท้าตาม 

"เดี๋ยวสิขิม" อ้นร้องเรียก ขิมหยุดแต่ไม่หันหน้ามา ยืนกอดอกนิ่ง 

"อ้นรู้แล้วแหละ มีคนมาเล่าให้ฟัง แต่เชื่ออ้นนะ มันไม่มีอะไรหรอก"

ขิมค่อยๆ หันมามองอ้นช้าๆ "ก็ไม่ได้ว่าอะไรป้ะ"

"แล้วทำไมไม่เคยไปหาเค้าเลยอ่ะ ชวนไปก็ไม่ไป" อ้นทำหน้าหงอย

"อืมม์ ก็เดี๋ยวไปวันศุกร์นี้ไง" ขิมตอบเลี่ยงๆ

"ทำไมต้องทำเหมือนโกรธเค้าด้วยอ่ะ เค้าผิดอะไรอ่ะ ผิดที่ปล่อยให้ผีหลอกเตงหรอ" อ้นทำหน้าทะเล้น

"ไม่ขำนะโอเคป้ะ" ขิมเสียงดังขึ้นมาทันที

"โอเคๆ ไม่พูดละ ป่ะ เดี๋ยวไปส่ง จะไปไหนกัน" อ้นหันมาทางจิ้บที่ยืนขำอยู่ใกล้ๆ

...........................................................................................


"วันศุกร์"


หลังเลิกเรียน เพื่อนๆ ราวสิบกว่าคนทั้งหญิงและชายก็พากันมารวมตัวอยู่ที่คอนโดของอ้น ทุกคนช่วยกันทำอาหาร เปิดเพลง ร้องคาราโอเกะ กันครื้นเครง บางคนก็กระโดดโลดเต้นไปตามเพลง ทุกคนพูดคุยหัวเราะ สรวลเสเฮฮากันออกรสออกชาติ ปาร์ตี้ดำเนินไปอย่างสนุกสนาน พอใกล้เที่ยงคืน เพื่อนๆ ก็แอบกระซิบกระซาบกันหวังหลอกล่อให้อ้นออกไปจากห้องเพื่อจะได้ทำเซอร์ไพร์ส


คนที่รับหน้าที่หลอกล่อให้อ้นออกจากห้องไปคือ "หนุ่ม" โดยแผนการณ์คือหลอกอ้นว่ามีเหล้าอยู่ที่รถให้อ้นลงไปช่วยยก แล้วทุกคนที่รออยู่บนห้องก็หลบเข้าไปอยู่ในห้องนอน ตระเตรียมของขวัญที่แต่ละคนเตรียมมากองๆ ไว้บนที่นอน พร้อมเค้กก้อนใหญ่ที่ถือรออยู่โดยขิม เมื่อหนุ่มส่งสัญญานมาทางไลน์ว่ากำลังขึ้นลิฟท์มาแล้ว ทุกคนที่รออยู่ในห้องก็รีบจุดเทียนวันเกิดแล้วปิดไฟทั้งหมด ทั้งในห้องนอน และห้องรับแขก


เสียงที่เคยจอแจในห้อง เงียบลงในทันที รอคอยเวลาที่อ้นจะเปิดประตูเข้ามา แล้วจะได้ตะโกนขึ้นพร้อมกันว่า "แฮปปี้เบิร์ธเดย์" แล้วทุกคนก็จะเข้าไปตะลุมบอนอ้น ก่อนจะเปิดไฟแล้วให้อ้นเป่าเค้ก


นั่นคือแผนที่ทุกคนเตรี๊ยมกันไว้ แต่....


เมื่ออ้นและหนุ่มขึ้นลิฟต์มาถึงแค่ชั้น 7 ปรากฎว่า ลิฟต์หยุดเอาซะเฉยๆ ทั้งสองคนพยายามจะโทร.เรียกเพื่อน แต่ในลิฟท์ไม่มีสัญญาณเลย เมื่อพยายามกดสัญญาณขอความช่วยเหลือแล้ว ก็ยังไม่มีใครตอบรับ


ภายในห้องนอนของอ้น ทุกคนเฝ้ารอวินาทีไคลแมกซ์ของคืนนี้กันอย่างใจจดใจจ่อ แต่ยิ่งนาน ก็ยิ่งคลายความตื่นเต้น


อากาศภายในห้องเริ่มร้อนขึ้น ร้อนขึ้น คงเป็นเพราะคนเยอะแออัดก็เป็นได้ ทุกคนเริ่มกระซิบกระซาบกันว่าร้อนอบอ้าว จิ้บใช้โทรศัพท์เป็นแสงสว่างในการหารีโมทแอร์ จนในที่สุดก็เจอ

"โหย นี่ก็ 25 องศาแล้วมะ" จิ้บเอ่ยเบาๆ

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ขิมรีบหันไปหาจิ้บทันที ก่อนที่จิ้บจะพยายามปรับแอร์ให้เย็น แต่ปรับยังไงอากาศในห้องก็ยังร้อนเหมือนเดิม เมื่อสังเกตุเทียนวันเกิด ปรากฎว่า เทียนรูปตัวเลข ไหม้จนไม่เป็นตัวเลขแล้ว ทุกคนหันมาพึมพำถามกันว่า เอาไงดี บางคนพยายามส่งไลน์หาหนุ่ม

"ไม่อ่านเลยว่ะ" มีคนนึงพูดขึ้น

ทุกคนเริ่มมองหน้ากันไปมา และในขณะที่ทุกคนกำลังพึมพำถามกันไปมาอยู่นั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านนอก ทุกคนเงียบลงพร้อมกันทันที

เสียงประตูด้านนอกเปิดออก มีเสียงคนเดินเข้ามาช้าๆ ทุกคนในห้องต่างยิ้มกริ่มเตรียมตัวพุ่งไปที่ประตู แต่แล้ว เสียงคนเดินก็หยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน ทุกคนในห้องรอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ รวมทั้งขิม

ในที่สุด ประตูห้องนอนก็ค่อยๆ เปิดออก 

"เอี๊ยด-ด-ด"

พอประตูเริ่มเปิดกว้างขึ้น ทุกคนในห้องก็กรูกันไปที่ประตู พร้อมด้วยเสียง "แฮปปี้เบิร์ธเดย์" ตามด้วยการตะลุมบอนกันอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับเสียงหัวเราะสนุกสาน พอผ่านไปซัก ไฟในห้องนอนสว่างจ้า ทุกคนที่ร่วมวงตะลุมบอนค่อยๆ แหวกวงล้อมออก ขิมยืนถือเค้กรออยู่

ทุกคนรอให้อ้นลุกขึ้นมาเพื่อเป่าเค้ก

ทุกคนมองหน้ากัน ไล่เรียงไปทีละคน แต่เมื่อแหวกตัวออกหมดแล้ว กลับไม่เจออ้น


หรือแม้แต่หนุ่ม


ทุกคนเริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่ก มีคนหนึ่งเปิดประตูห้องนอนออกไป ภายในห้องรับแขกมืดสนิท ทุกคนเริ่มเดินตามกันออกมา กวาดตาไปทั่วห้องรับแขก และห้องนอน กลับไม่มีร่องรอยของอ้นหรือหนุ่ม ตอนนี้ไฟภายในคอนโดถูกเปิดให้สว่างจ้าทุกดวง ทุกคนมองหน้ากันล่อกแล่ก ขิมค่อยๆ เดินตามเพื่อนๆ ออกไปที่ห้องรับแขก เหงื่อพรั่งพรูเต็มหน้า

ขณะที่ทุกคนกำลังมึนงงกับเหตุการณ์กันอยู่นั้น จู่ๆ ประตูคอนโดก็เปิดออก อ้นเดินนำเข้ามา ในมือถือลังเบียร์ อ้นชะงักกึกอยู่หน้าประตู มีหนุ่มเดินตามหลังถือกล้องวิดีโอเตรียมถ่าย

ภาพที่เห็นภายในห้องคือ ขิมยืนถือเค้กค้างอยู่หน้าตาตื่น ส่วนคนอื่นๆ ยืนทำหน้างงงวยกันอยู่คนละมุมห้อง ทุกคนหันมามองที่อ้นกันเป็นตาเดียว ไม่มีใครพูดอะไร ห้องทั้งห้องตกอยู่ภายใต้ความเงียบ หนุ่มแซกตัวผ่านอ้นเข้ามาในห้องรับแขกมองทุกคนแบบงงๆ ก่อนเอ่ยขึ้นว่า

"นี่ทำอะไรกันวะ แล้วที่เตี๊ยมกันไว้อ่ะ" 

ทุกคนเริ่มหันหน้ามองกันไปมา

"อะไร เตี๊ยมอะไรกัน" อ้นเอ่ยแบบงงๆ ก่อนวางลังเบียร์ลง แล้วเดินเข้าไปหาขิม ก่อนจะใช้นิ้วชี้ป้ายเค้กใส่ปลายจมูกขิมเล็กน้อย แล้วหอมที่หน้าผากขิมเบาๆ "ขอบคุณนะ"

ขิมตกอยู่ในอาการมึนงงรวมถึงทุกคน กระทั่งจิ้บเอ่ยขึ้นว่า 

"พวกแกพึ่งเข้ามาหรอ"

"เออสิ ตะกี้ลิฟท์ค้าง พึ่งออกมาได้เนี่ย ละเนี่ยพวกแกทำไร" หนุ่มเอ่ยพลางปาดเหงื่อ มองหน้าเพื่อนๆ ที่ตอนนี้มองหน้ากันเลิ่กลั่ก

"สาบานว่าพึ่งเข้ามา" จิ้บเอ่ย

"อ้าว งั้นถามไอ่อ้นดิ ทำไมวะ"

"เชื่อมะว่าพวกชั้นทำตามแผน หลบอยู่ในห้องนอน ละมีเสียงคนเดินเข้ามา เปิดประตูเข้าไปในห้อง ทุกคนก็ทำตามแผนทุกอย่าง ละสุดท้าย เปิดไฟมาไม่เจอใคร" จิ้บเอ่ย ทุกคนนิ่งฟัง

หนุ่มหันมามองอ้นที่กำลังทำหน้างงกว่าใครเพื่อน

"เป็นไปไม่ได้ พวกชั้นพึ่งเข้ามา งั้นจะทำให้เสียแผนทำไม นี่เปิดคลิปดูป้ะล่ะ ชั้นถ่ายไว้ตั้งแต่ลงไปที่รถอ่ะ" หนุ่มพูด


"จริงๆ นี่พึ่งเดินเข้ามาเลยเนี่ย ไอ่หนุ่มมันไม่ได้โกหก ลิฟท์ค้างจริงๆ ดูเหงื่อสิเนี่ย พึ่งออกมาได้ พากันเดินขึ้นมาจากชั้น 7 เนี่ย" อ้นพูด คราวนี้ทุกคนเชื่อแล้วพึมพำกันออกมาแบบประสานเสียงกันจนฟังไม่ได้ศัพท์


"เห้ย หรือว่าจะเป็น" จิ้บเอ่ยขึ้น พลางหันไปมองช้าๆ ที่ขิม ที่ตอนนี้ยืนก้มหน้านิ่งอยู่ที่โต้ะกินข้าว เหงื่อแตกเต็มหน้า ทุกคนกรูกันเข้าไปหาขิม

"กูว่ากลับเหอะ งานเลี้ยงจบละ" ขิมพูด

ทุกคนมองหน้ากันเริ่มตื่นกลัว กระทั่งอ้นพูดขึ้นว่า "เห้ย ไรกาน กลับได้ไง ไหนบอกคืนนี้จะอยู่กันถึงเช้างะ ยังไม่ได้สนุกกันเลย เซอร์ไพรส์ไม่สำเร็จก็ไม่เห็นต้องซีเลย ป่ะๆ กินต่อๆ นี่อุตส่าห์หอบเหล้าขึ้นมาตั้งเป็นลัง เหนื่อยชิเป๋ง ปะเร็วๆ"

ทุกคนมองหน้ากันด้วยความไม่แน่ใจ ก่อนจะค่อยๆ พากันกลับไปนั่งล้อมวงกันเหมือนเดิม

จิ้บเดินเข้ามาหาขิม "แก ชั้นว่ามันแปลกๆ แล้วว่ะ"

"ชั้นอยากกลับบ้าน" ขิมพูด หลังจากนั้นอ้นก็เดินเข้ามาประคองขิมเข้าไปนั่งร่วมวงกับเพื่อนๆ แล้วสักพักภายในห้องก็กลับมาดังก้องไปด้วยเสียงเพลงอีกครั้ง มีเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังแข่งกับเสียงเพลงอยู่เป็นระยะ


ยิ่งดึก ปาร์ตี้ก็ยิ่งคึกคัก หลายคนเริ่มมีอาการทรงตัวไม่ค่อยได้กันแล้ว บางคนก็หลับพับอยู่บนโซฟา บางคนก็หนีมาหลับอยู่ในห้องนอน

หนุ่มเริ่มมึนๆ แล้วแต่ก็ยังถือกล้องวิดีโอถ่ายบรรยากาศในงานไว้ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำ เสียงเพลงจากด้านนอกดังเข้ามาเบาๆ หนุ่มร้องตามอย่างเมามันส์ กระทั่ง ได้ยินเสียงเคาะประตู

"เห้ย เดี๋ยว ใครวะ รีบหรอ" หนุ่มเอ่ย พลางรูดซิบ ก่อนเปิดประตูออกไป ไม่มีใคร หนุ่มยืนหน้าแดงก่ำอยู่หน้าประตูครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ หันกลับไปหยิบกล้อง ถ่ายแพลนไปรอบๆ ห้องนอน กล่องของขวัญนับสิบกองอยู่บนที่นอน มีคนหลับคว่ำอยู่ข้างๆ กองของขวัญ หนุ่มซูมกล้องเข้าไปที่หน้าเพื่อนพร้อมส่งเสียงหัวเราะด้วยความขบขัน "โหย อ่อน"

ทันใดนั้นก็มีเสียงประตูกระแทกเปิดออกตรงระเบียง หนุ่มเงยหน้าขึ้นไปมอง พร้อมกับกล้องในมือที่หันไปตามเสียง ผ้าม่านปลิวน้อยๆ เหมือนมีลมพัดจากด้านนอก

"เห้ย ออกไปยืนทำไรวะ เดี๋ยวก็ตกลงไปตายห่าหรอก ยิ่งเมาๆ อยู่อ่ะ" หนุ่มตะโกน แต่เพื่อนที่เห็นยืนอยู่ตรงระเบียงก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนเหมือนไม่ได้ยินที่หนุ่มพูด หนุ่มทำท่าจะเดินไปที่ระเบียง กระทั่ง เพื่อนคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง

"ไอ้หนุ่ม มาทำไรอยู่นี่ ทุกคนเค้าถามหา_ึง ออกมาถ่ายนี่ดิ๊ ไอ้ต่ายมันกำลังดวลกับไอ้หนึ่ง เร็วๆ"

หนุ่มถอยหลังออกจากห้องไปตามแรงกระชาลากถูของเพื่อน



งานเลี้ยงดำเนินต่อไป กระทั่งขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกันอยู่ หนุ่มก็ตะโกนบอกเพื่อน "เห้ยๆ ไหนมารวมๆ กันดิ๊ ถ่ายรูปหมู่ดิ๊ ยังไม่มีรูปหมู่เลย"

ทุกคนเขยิบเข้าหากันอย่างว่าง่าย บางคนก็หันไปจิกหัวเพื่อนที่ฟุบอยู่ขึ้นมาเข้าเฟรม

"ไอ้โจ้กล่ะวะ" มีคนนึงตะโกนขึ้น เพื่อนๆ คนอื่นๆ เริ่มสอดส่ายสาตาไปมาทั้งห้อง


"กูเห็นมันฟุบหลับอยู่ในห้องนอนโน่น แ_่ง นอนเฝ้าของขวัญ ฮ่าๆๆ" หนุ่มเอ่ย ทุกคนหัวเราะครืน


คนนึงจึงลุกขึ้นมา เดินโซเซไปที่ห้องนอน ทุกคนที่เหลือนั่งรอกันหน้าแดงก่ำ

ซักพักเพื่อนคนนั้นก็วิ่งหน้าตื่นออกมาจากห้องนอน "เห้ย ไอ้โจ้กมันเป็นไรไม่รู้ว่ะ"

หลังจากนั้นทุกคนก็วิ่งกรูตามกันเข้าไปในห้องนอน 

"โจ้ก" นอนเกร็งอยู่บนที่นอน ตาเหลือกมองจ้องเพดานไม่กระพริบ

ทุกคนแทบจะหายจากอาการมึนเมาในทันที ต่างคนต่างทำอะไรไม่ถูก

"รพ. โทรเรียกรถรพ." อ้นตะโกน ทุกคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก แต่ก็จิ้มผิดจิ้มถูก

"เดี๋ยวชั้นโทรเอง" ขิมตะโกนขึ้นมา ก่อนกดโทรออกทันที

ระหว่างนั้น โจ้กก็มีอาการขบฟันแน่น ครางลอดฟันออกมาเบาๆ ตัวเกร็งไปทั้งตัว

"มันแ_กเหล้าเยอะหรอวะ" คนนึงเอ่ยขึ้น

"มันมีโรคประจำตัวอะไรรึเปล่า" อีกคนเอ่ย


"พวกเราต้องช่วยกันอุ้มไอ่โจ้กลงไปขึ้นรถพาส่งรพ.เองเลยดีกว่า รองี้ไม่ไหวหรอก ดูมันสิ" จิ้บเอ่ย


ทุกคนมองหน้ากัน โดยไม่ต้องลังเล พวกผู้ชายรีบเข้าไปแบกโจ้กออกจากห้องไป แต่ปรากฎว่าลิฟท์ยังใช้ไม่ได้ ต้องลงบันได ทุกคนเลยต้องไปช่วยกันหมด ทิ้งพวกผู้หญิงให้รอกันอยู่ที่คอนโด


"แกว่ามันจะเป็นไรมากป่าววะ" จิ้บเอ่ยขึ้น ขิมนั่งหน้านิ่ง ครุ่นคิดบางอย่าง

"ขออย่าให้เป็นอะไรเลยว่ะ มางานวันเกิดแท้ๆ" เพื่อนคนนึงเอ่ยขึ้น


ขณะที่ทุกคนกำลังกังวลกับอาการของโจ้ก จู่ๆ ไฟในห้องก็ดับ รวมทั้งเครื่องเสียงที่เปิดดังมาทั้งคืน ทุกคนเงียบ ทั้งห้องเงียบ

ขิมนั่งตัวเกร็ง เหงื่อเริ่มซึมออกมาเต็มหน้า แต่ละคนเริ่มเขยิบเข้าหากันช้าๆ มองไปมารอบๆ ห้อง กระทั่งมีเสียงคนเดินออกมาจากห้องนอน ทุกคนมองตามเสียงใจเต้นระทึก

เสียงนั้นดังออกมาจากห้องนอน ลากเท้าช้าๆ มาหยุดอยู่หน้าประตู ทุกคนต่างจิกแขนกัน ขบฟันแน่นไม่มีใครพูดอะไร รวมทั้งขิม ที่ตอนนี้หายใจไม่เป็นจังหวะ จ้องไปที่หน้าห้องนอนนิ่ง

เสียงฝีเท้านั้นค่อยๆ ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา จนมาหยุดอยู่ที่กลางห้องรับแขก

ทุกคนเกร็งสุดขีด จิกแขนกันจนลืมความเจ็บ

แล้วจู่ๆ เครื่องเสียงก็ดังกระหึ่มขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้งที่ไฟในห้องยังดับอยู่ ทุกคนส่งเสียงกรีดร้องพร้อมกันสุดเสียง ต่างคนต่างหลับตาแน่น แล้วสักพักเครื่องเสียงก็ดับลง รวมทั้งเสียงกรีดร้องที่ค่อยๆ เบาลง ทุกคนหายใจไม่เป็นจังหวะ ไม่มีใครพูดอะไร ได้แต่มองหน้ากันนิ่ง


โดยไม่ต้องพูดอะไร ไม่กี่อึดใจต่อมา ทุกคนก็พร้อมใจกันลุกขึ้นแล้ววิ่งไปที่ประตูอย่างทุลักทะเลท่ามกลางความมืด พยายามเปิดประตูแต่รุมกันอยู่หน้าประตูตั้งนานประตูก็ไม่ยอมเปิดสักที ขิมหันกลับไปมองยังห้องรับแขก ก่อนจะแทรกตัวเข้าไปเป็นคนเปิดประตูเอง คนอื่นๆ ยืนเกาะกันเต้นเร่าๆ มองกลับไปข้างหลังอย่างหวาดระแวง และในที่สุดประตูก็เปิดออก ทุกคนกรูกันไปที่หน้าลิฟท์ทันที

"ลิฟท์เสีย" เพื่อนคนนึงตะโกน 

ทุกคนมองหน้ากันกระสับกระส่ายก่อนจะตรงไปที่บันได แล้ววิ่งตามกันลงไปข้างล่าง ขิมวิ่งตามไปเป็นคนสุดท้าย แต่ระหว่างที่วิ่งลงไปตามขั้นบันได ขิมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนึ่งวิ่งตามลงมาห่างๆ ขิมหันกลับขึ้นไปมองด้านบน เสียงฝีเท้านั้นดังใกล้เข้ามา เมื่อมองไปที่เพื่อนๆ ด้านล่าง ทุกคนอยู่ครบ เมื่อเห็นขิมหยุด ทุกคนจึงหยุดตาม เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาทุกที ทุกคนมองหน้ากันก่อนจะรีบออกวิ่งอีกครั้งแบบไม่คิดชีวิต


ทุกคนกรูกันออกไปหน้าคอนโด ยามคอนโดโผล่ออกมาจากเสาต้นหนึ่งส่งเสียงถาม  "มีอะไรให้ช่วยไหมครับ"

ทุกคนสะดุ้ง หันไปมองข้างหลัง หายใจหอบ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนขั้นบันไดหน้าคอนโด ไม่มีใครพูดอะไร

............................................................................



นาฬิกาเหนือเคาเตอร์กลางล้อบบี้บอกเวลาตีสามสี่สิบนาที เด็กสาว 6 คนนั่งเหม่อลอยกันอยู่หน้าคอนโด ทุกคนนั่งอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหนไม่รู้ แล้วจู่ๆ ก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีเสียงๆ หนึ่งดังขึ้น พร้อมกับพุ่งเข้ามาหา

"ลงมาทำอะไรกันอยู่นี่อ่ะ แล้วโทรมาทำไมไม่พูดซักคน" เสียงอ้นเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ ทุกคนมองหน้ากันล่อกแล่ก

"ก็วิ่งหนีผีป่าราบลงมาเนี่ย ไม่ได้มีอะไรติดตัวลงมาซักคนเลย แล้วจะพูดได้ไง" จิ้บพูด

"วิ่งหนีอะไรนะ" อ้นทำหน้างง ก่อนจะพูดต่อ
"ก็เนี่ยโทรหาทุกคนเลย รับแล้วก็ไม่มีใครพูด" อ้นยื่นโทรศัพท์ให้ดู รายการโทรออกล่าสุด โทรหาทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นรวมกันหลายสาย เมื่อพูดจบอ้นก็ชะงักมองหน้าเพื่อน


ทุกคนมองหน้ากันและเข้าใจได้โดยที่ไม่ต้องพูดอะไร









......งานเลี้ยงจบแล้ว......



ตต.







ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม