การเดินทางที่แสนพิเศษในเมืองกรุงกับพี่วินมอไซค์
ในกรุงเทพมหานครเมืองรถติด ที่แสนวุ่นวาย ผู้คนมากมาย วุ่นวายวกวน การเดินทางที่สะดวกรวดเร็วทันใจในชั่วโมงที่เร่งด่วนและไม่เร่งด่วน คงจะหนีไม่พ้น "พี่วินมอไซค์" และด้วยวิถีชีวิตกรุงเทพสตาวที่ต้องใช้บริการพี่วินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พี่วินนับร้อยนับพันที่เราผ่านเบาะของเขามาไม่ซ้ำหน้ากันนั้น จึงเกิดเป็นตำนานเล่าขานมากมาย
พี่วิน-พึ่งจีบกันใหม่
พี่วินบางคนน่ารักมาก การเดินทางที่แสนสั้นในวันฝนตกนั้น รู้สึกได้ถึงความรู้สึกประหนึ่งแฟนหนุ่มมารับหญิงสาวที่พึ่งจีบกันใหม่ๆ ดูน่ารัก ดูสุภาพ ดูทะนุทะนอม เสียสละแม้แต่เสื้อกันฝน ยอมขับช้าเพราะกลัวร่มของนางเอกเกาหลีจะปลิว กลัวน้ำขังข้างทางจะกระเด็นใส่สาวน้อย "ใส่หมวกผมก็ได้" "ระวังนะ" "กระเด็นมั้ย" เทียวหันมามองอยู่ตลอด
อื่ม ช่างอ่อนโยน แต่...จะถึงไหมวันนี้
พี่วิน-ลูกสาม
ในขณะที่พี่วินบางท่านน้านนน ก็ให้ความรู้สึกเหมือนมารับเมียที่มีลูกรออยู่บ้านสามคน เมียก้าวขึ้นก้นยังไม่ทันจะหย่อนถึงเบาะ พี่ก็ออกตัวแรง เมียหงายเงิบ จิกเบาะไว้แทบไม่ทัน แถมขับพุ่งทะยานดุจร้อยแรงม้าประหนึ่งอยากให้เมียรีบๆ ตกมาตาย พี่จะได้ไปอยู่กับเมียน้อย ขึ้นหลังเต่าไม่ต้องชะลอ เข้าโค้งอย่าได้คิดเลย ให้เมียมันกระเด้งกระดอนไปตามยถากรรม เห้อ เมียอยากจะขอลงกลางทางจริงๆ
พี่วิน-ขาแว๊นซ์
พี่วินบางท่านให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสก๊อยเกาะหลังแว๊นซ์ไปซิ่งบนทางด่วน พี่เขาจะขับด้วยความเร็วและซิกแซกประหนึ่งทำความเร็วอยู่ในสนามและควบรถซิ่งคู่ใจอยู่เพียงลำพัง พี่จะซิกแซ่กลัดเลาะชนกระจกรถมองข้างรถเก๋ง ฝ่ากลางระหว่างหกล้อที่วิ่งขนาบสองข้าง เข่าอยู่ห่างล้อไปหนึ่งคืบได้อย่างชำนาญ แต่หนูไม่ชินเลย "เอ่อๆ พี่คะ หนูๆ หนูมาด้วยค่ะพี่" อยากเสียวไม่ต้องไปเสียเงินเล่นเครื่องเล่นแพงๆ ค่ะ มานั่งซ้อนพี่แว๊นซ์ เอ๊ย พี่วินคนนี้ 20 บาท เสียวกว่า ลงจากรถมาขาสั่นพั่บๆๆ อรรถรสไม่แพ้กัน
พี่วิน-ฟีโน่
วินบางคันเป็นพี่สาวขับฟีโน่น่ารัก ขับช้าขับนิ่ม นั่งไปก็สบายอกสบายใจ นั่งวินในกทม.มันต้องแบบนี้สิ กระทั่งอีก 5 เมตรถึงที่หมาย พี่สาวบิดฟีโน่ข้ามร่องน้ำตื้นๆ ก่อนขึ้นเนินไปหน้าตึก จังหวะเดียวกับที่น้องสาวปล่อยมือจากที่จับควักตังค์เตรียมจ่ายพอดี บังเอิญกับที่หมาประจำตึกตัวใหญ่วิ่งเข้ามา งานนี้น้องก็เลยหงายเงิบไปตามแรงทะยานของฟีโน่ ขาสองข้างชีฟ้า แหกปากลั่น พี่สาวก็ตกใจปล่อยรถพุ่งเข้าหารั้วหนาม ดียังเบรกจึ้กทันท่วงที พร้อมทำเอาตัวน้องที่กำลังจะเงิบตกจากรถ ตัวกระเด้งไปข้างหน้าไม่ตกลงมา โล่งทั้งคนทั้งหมา เอ้ย ทั้งคนขับคนซ้อน คือ หมามันก็วิ่งมาตามประสามัน แต่พี่คนขับนางตกใจเสียงเราน่ะ นึกว่าหมาจะวิ่งมากัด ก้าวลงจากรถได้ คนขับเอามือทาบอก "ขวัญเอ้ยขวัญมา" นางทำหน้าตาตื่น นี่เลยตบบ่านางเบาๆ "ไม่เป็นไรแล้วนะพี่"
พี่วิน-เฟรนด์ลี่
เจอพี่วินเฟรนด์ลี่บ่อยมาก เฟรนด์ลี่ไปหมด ตั้งแต่ก้าวขึ้นรถก็ชวนคุย ขับผ่านใครก็ชวนเขาคุยไปตลอดทาง บางทีคุยกะเรา เราก็ไม่รู้จะคุยไร ได้แต่ "อ๋อค่า ค่า"
พี่วิน-คุยกับใคร
เคยป่ะ ขึ้นวินปุ้บ พี่วินก็ถาม เราก็ "ห้ะ อะไรนะคะ" แต่เขาไม่ตอบ เขาก็พูดของเขาไป เราก็พยายามฟัง แต่เขาเหมือนไม่ได้คุยกะเราอ่ะ เหมือนคุยกะใครสักคน คุยเสียงดังมาก ลงจากรถ เราก็พยายามมองว่าคุยโทรศัพท์รึเปล่า ใส่สมอลทอร์คไหม ใส่บลูทูธไหม ก็ไม่มีอะเธอ อืม เรางง
พี่วิน-ไม่พูด
พี่วินบางคนไม่พูดเลย พอเราขึ้นบอกจุดหมายปลายทาง พี่เขาก็จะขี่ไปนิ่งๆ ระหว่างที่นั่งกันไปเงียบๆ ด้วยความเป็นคนชอบแส่ เอ่อ ชอบสังเกตุ เลยก้มไปดูที่หลังพี่วิน อุ้ตะ มองเผินๆ ตอนแรกนึกว่าเสื้อวินสักยันต์ ที่แท้เป็นตัวหนังสือ เขียนด้วยหมึกสีเข้มๆ บรรยายไว้เต็มหลัง "ขึ้นแล้วอย่าคุยโทรศัพท์ พูดจาสุภาพมีหางเสียง หัดมีมารยาทหน่อย" บลา บลา บลา เอิ่ม กลืนน้ำลายเฮือก โชคดีที่ตอนขึ้นเราบอกว่า "ไป....ค่ะ" ปกติพูดมีหางเสียงอยู่แล้ว แต่ก็มีข้อห้ามอีกหลายอย่างเหลือเกิน ทำเอานั่งตัวเกร็งตลอดทาง พอถึงยื่นตังค์ให้แล้วยังต้องเน้นดังๆ ไปอีกรอบ "ขอบคุณค่า" แล้วพี่เขาก็จากไปเงียบๆ เจอคันนี้ทีไรเกร็งทุกทีจะไม่ขึ้นก็ไม่ได้ เพราะต้องไปตามคิว
พี่วิน-พี่คะ teen หนู
ด้วยความเป็นชะนีส่วนมากจะใส่กระโปรง นั่งแบบหันข้าง นั่งๆ ไปปลายเท้าก็มักจะไปฟาดกับล้อรถยนต์คันข้างๆ บ้าง ฟาดขอบฟุตบาธบ้าง มีครั้งนึงเท้าฟาดกับเสาอะไรสักอย่างเล็กๆ ข้างทาง ปรากฎ รองเท้าหลุดจ้ะ "พี่คะะะ รองเท้าหลุดดด" พี่วินรีบจอด หันมาหัวเราะเบาๆ พยักเพยิดให้เราวิ่งไปเก็บ นี่ก็วิ่งงงงงด้วยรองเท้าข้างเดียว กลับไปเก็บรองเท้า ก่อนจะวิ่งกลับมาที่รถ
พี่วิน-ร่ม
ในวันที่ฝนตก แต่จำเป็นต้องใช้พี่วินจริงๆ ก็ต้องอาศัยร่มกาง เพราะรถติดขับเร็วไม่ได้อยู่แล้ว ละไหนกว่าจะถึงคงเปียก วันนึงก็นั่งกางร่มไป จู่ๆ พี่วินก็ตะโกนมา "พี่ๆ พี่กางให้แต่ตัวเองก็พอครับ มันเลื่อนลงมาบัง"
เอิ่ม พี่คะ หนูไม่ได้จะกางให้พี่คะ แต่แรงโน้มถ่วงอ่ะค่ะพี่ เอิ่ม ก็ไม่เป็นไร ยกๆ ร่มให้สูงขึั้นอีกหน่อย อื่ม ฝนก็โปรยใส่หน้าอ่ะค่ะ ปวดแขนอิก อื่ม การนั่งวินยามฝนตกคือไม่คิ้วท์เลยค่ะ
พี่วิน-ผู้โดยสารหาย
ถนนบางสายเป็นถนนที่กว้างมากและรถน้อย พี่วินบางคันห้อตะบึงอยู่เลนในๆ โน้น ผู้โดยสารยืนอยู่ริมฟุตบาธกวักมือเรียกแต่ไกล พี่วินเห็นดังนั้นก็ชะงักแล้วรีบหันขวับกลับไปมองที่เบาะหลังทันที
สักพักเมื่อพี่วินแล่นผ่านหน้าผู้โดยสารที่ยืนอยู่ถึงได้เห็นว่า "อ๋อ มีคนนั่ง เอิ่ม" หดแขนกลับแทบไม่ทัน พี่วินคงงงว่า ผู้โดยสารหายไปไหน
พี่วิน-ผู้โดยสารหนี
พี่วินบางคันเมื่อนั่งไปถึงจุดๆ หนึ่ง ด้วยความคับแค้นก็ระบายออกมาว่า "วันก่อน เคยมาส่งผู้โดยสารตรงนี้ทีนึง รับมาจากที่เดียวกันนั่นแหละ แกก็เป็นคนอ้วนไง อ้วนมาก หนักมาก พอมาถึงตรงนี้นะ รถมันติดไง พอรถติดสักพักเราออกตัวไป ไปถึงที่นะ หันกลับมาไม่เจอแกแล้ว สงสัยแกจะลงไปตอนรถติดนั่นแหละ ก็น่าจะบอกกันดีๆ เราก็ไม่อยากรับหรอกตอนแรก เห็นละสงสารเลยรับมา ไม่คิดว่าจะทำกันงี้"
ก็น่าสงสารพี่วินเนอะ แต่ ตัวอ้วนหนักขนาดนั้น ตอนลงพี่ไม่รู้สึกเลยหรอคะ >_<
ว้า เขียนไปเขียนมาเยอะจัง นี่ยังเล่าไม่หมดเลยนะ จากประสบการณ์ที่ใช้บริการพี่วินมามากทำให้รู้ว่าการนั่งวินที่ดี คือ เก็บคอ งอเข่า เก็บศอก ล็อกหมวกกันน้อค พูดจามีหางเสียง ไม่เล่น ไม่คุยโทรศัพท์รับรองถึงที่หมายปลอดภัย
ปล.พี่วินเขาก็เป็นคนมีหัวจิตหัวใจเหมือนเรา เป็นคนหาเช้ากินค่ำ ทำอาชีพสุจริต แถมมีน้ำใจคอยไปรับไปส่งถึงที่ ขอให้บอก เท่ากับว่าต่างคนต่างพึ่งพาอาศัยกัน พูดกับเขาดีๆ ซักนิดนึงเนาะ อย่าให้พี่เขาต้องร่างกฎติกามารยาทลงบนแผ่นหลังกันทุกคันเลย หุๆ
ปลล.ภาพปลากรอบไม่เกี่ยวข้องกับบทความแต่อย่างใด แต่หากสมาคมวินมอไซค์แห่งประเทศไทยจะคัดวินหน้าตาแบบนี้ ในสังคมแบบนี้ ก็จะดีมากๆ เลยค่ะ ถถถ
ตต.
เครดิตภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้ https://youtu.be/ePjraL6YoRc
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น