ดูหนังซับให้เป็นศิลปะเถิด
เวลาเห็นใครไปดูหนังมาละมาโพสต์ด่านักแปล
ว่าแปลซับผิดบ้าง แปลไม่ตรงบ้าง
คือ ในฐานะที่เรียนการแปล อันนี้ไม่ได้จะกำลังเอาทฤษฎีหรืออะไรมาอ้างนะ แต่พูดในฐานะที่เราเข้าใจ "การแปล" ในระดับนึงว่า
การแปลคู่ภาษาไหนก็ตามบนโลกใบนี้ มันไม่มีทางแปลได้ถูกต้อง ตรงเป้ะทุกอย่าง 100 % หรอก
เพราะว่า มันไม่มีภาษาไหนบนโลกนี้ที่เหมือนกันเด้ะทุกอย่าง
ยกตัวอย่าง ภาษาอังกฤษ กับ ภาษาไทย ความแตกต่างมันมี ทั้งด้านโครงสร้าง ไวยากรณ์ ความหมาย วัฒนธรรม และอื่นๆ สิ่งที่นักแปลสามารถทำได้ คือ แปลยังไงให้เทียบเคียงกับต้นฉบับให้ได้มากที่สุดมากกว่า
และการแปลซับไตเติ้ลต้องอาศัยเทคนิคที่แตกต่างจากการแปลประเภทอื่นๆ มันมีปัญหาและข้อจำกัดหลายอย่าง ที่บางทีคนนอกแขนงอาจจะไม่เข้าใจ (เช่นเดียวกับการแปล) ถ้าโดยทั่วไป สิ่งที่ต้องคำนึงถึง นอกจากความถูกต้องของภาษาแล้ว ยังต้องคำนึงถึงเวลาที่ซับจะปรากฎบนจอภาพ และความยาวของซับบนจอภาพด้วย
ถ้าใช้คำพูดยาว เยิ่นเย้อ คนอ่านก็คงเหนื่อย ดูหนังไม่ทัน มัวแต่อ่านซับ มันก็ส่งผลต่อการเลือกใช้คำของผู้แปลได้ แบบนี้เป็นต้น
ส่วนตัวคิดว่า มันขึ้นอยู่กับผู้แปลนะ ว่าจะเลือกแปลแบบไหน จะเลือกใช้คำแบบไหนในบทแปลของเค้า บางทีในการแปลมันอาจจะไม่มีผิดไม่มีถูก มันเป็นศิลปะ เป็นงานเขียนอีกงานนึง ที่ขึ้นอยู่กับผู้แปลที่ถือเป็นผู้เขียนในเวอร์ชั่นภาษาปลายทาง ว่าจะเลือกสร้างสรรค์งานออกมาแบบไหน
จะเลือกรักษาการใช้ภาษาในต้นฉบับ หรือปรับไปเลยไม่คงเอกลักษณ์ใดๆ ของต้นฉบับ หรือ จะเน้นที่วัฒนธรรมต้นทาง หรือยึดวัฒนธรรมปลายทาง มันก็สามารถทำได้หลายอย่าง
ไม่อยากแจกแจงรายละเอียดเยอะแยะ เพราะจะกลายเป็นเข้าเรื่องทฤษฎีไปอีก
แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่า บางคำ บางประโยค มันก็ไม่ได้ผิดมากกกก ในเมื่อมันไม่ใช่หนังสือ ที่มีแค่ตัวหน้งสือให้อ่าน แต่เรามีภาพ มีหนังให้ดูประกอบ มันก็พอเข้าใจได้
ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ที่มีการด่าทอนักแปลแบบเอาเป็นเอาตาย ซับไตเติ้ลเนาะ หนังคือความบันเทิงอย่างนึงเนาะ ไม่ใช่ตำราวิชาการเนาะ
เห้อ ละสงสารนักแปลกิงๆ แปลไม่ถูกใจคนนิดหน่อยโดนด่า
คนเราแต่ละคน แปลประโยคเดียวกัน ก็ต่างกันแล้วเนาะ จะให้แปลถูกต้องตรงใจคนทุกคนคงเป็นไปไม่ได้หรอก
หนัง คือ งานศิลปะ
การแปล ก็เป็น งานศิลปะแขนงหนึ่ง
ดูหนังซับให้เป็นศิลปะเถิด
#ขอให้โลกสงบสุข
#ซับไตเติ้ลเนาะไม่ใช่ตำราวิชาการเนาะ
ตต.
คือ ในฐานะที่เรียนการแปล อันนี้ไม่ได้จะกำลังเอาทฤษฎีหรืออะไรมาอ้างนะ แต่พูดในฐานะที่เราเข้าใจ "การแปล" ในระดับนึงว่า
การแปลคู่ภาษาไหนก็ตามบนโลกใบนี้ มันไม่มีทางแปลได้ถูกต้อง ตรงเป้ะทุกอย่าง 100 % หรอก
เพราะว่า มันไม่มีภาษาไหนบนโลกนี้ที่เหมือนกันเด้ะทุกอย่าง
ยกตัวอย่าง ภาษาอังกฤษ กับ ภาษาไทย ความแตกต่างมันมี ทั้งด้านโครงสร้าง ไวยากรณ์ ความหมาย วัฒนธรรม และอื่นๆ สิ่งที่นักแปลสามารถทำได้ คือ แปลยังไงให้เทียบเคียงกับต้นฉบับให้ได้มากที่สุดมากกว่า
และการแปลซับไตเติ้ลต้องอาศัยเทคนิคที่แตกต่างจากการแปลประเภทอื่นๆ มันมีปัญหาและข้อจำกัดหลายอย่าง ที่บางทีคนนอกแขนงอาจจะไม่เข้าใจ (เช่นเดียวกับการแปล) ถ้าโดยทั่วไป สิ่งที่ต้องคำนึงถึง นอกจากความถูกต้องของภาษาแล้ว ยังต้องคำนึงถึงเวลาที่ซับจะปรากฎบนจอภาพ และความยาวของซับบนจอภาพด้วย
ถ้าใช้คำพูดยาว เยิ่นเย้อ คนอ่านก็คงเหนื่อย ดูหนังไม่ทัน มัวแต่อ่านซับ มันก็ส่งผลต่อการเลือกใช้คำของผู้แปลได้ แบบนี้เป็นต้น
ส่วนตัวคิดว่า มันขึ้นอยู่กับผู้แปลนะ ว่าจะเลือกแปลแบบไหน จะเลือกใช้คำแบบไหนในบทแปลของเค้า บางทีในการแปลมันอาจจะไม่มีผิดไม่มีถูก มันเป็นศิลปะ เป็นงานเขียนอีกงานนึง ที่ขึ้นอยู่กับผู้แปลที่ถือเป็นผู้เขียนในเวอร์ชั่นภาษาปลายทาง ว่าจะเลือกสร้างสรรค์งานออกมาแบบไหน
จะเลือกรักษาการใช้ภาษาในต้นฉบับ หรือปรับไปเลยไม่คงเอกลักษณ์ใดๆ ของต้นฉบับ หรือ จะเน้นที่วัฒนธรรมต้นทาง หรือยึดวัฒนธรรมปลายทาง มันก็สามารถทำได้หลายอย่าง
ไม่อยากแจกแจงรายละเอียดเยอะแยะ เพราะจะกลายเป็นเข้าเรื่องทฤษฎีไปอีก
แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่า บางคำ บางประโยค มันก็ไม่ได้ผิดมากกกก ในเมื่อมันไม่ใช่หนังสือ ที่มีแค่ตัวหน้งสือให้อ่าน แต่เรามีภาพ มีหนังให้ดูประกอบ มันก็พอเข้าใจได้
ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ที่มีการด่าทอนักแปลแบบเอาเป็นเอาตาย ซับไตเติ้ลเนาะ หนังคือความบันเทิงอย่างนึงเนาะ ไม่ใช่ตำราวิชาการเนาะ
เห้อ ละสงสารนักแปลกิงๆ แปลไม่ถูกใจคนนิดหน่อยโดนด่า
คนเราแต่ละคน แปลประโยคเดียวกัน ก็ต่างกันแล้วเนาะ จะให้แปลถูกต้องตรงใจคนทุกคนคงเป็นไปไม่ได้หรอก
หนัง คือ งานศิลปะ
การแปล ก็เป็น งานศิลปะแขนงหนึ่ง
ดูหนังซับให้เป็นศิลปะเถิด
#ขอให้โลกสงบสุข
#ซับไตเติ้ลเนาะไม่ใช่ตำราวิชาการเนาะ
ตต.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น